ไม่ว่าจะพ่อบ้านใจกล้า หรือแม่บ้านใจดี ต่างก็มีโอกาสเจอปัญหาผ้าสีตกกันทั้งนั้น มาดูวิธีการซักผ้าสีตกและวิธีป้องกันไม่ให้ผ้าสีตกซ้ำในอนาคตกัน

ทุกครั้งที่ซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่มาควรทดสอบว่าสีตกหรือไม่ ก่อนนำไปซักรวมกับเสื้อผ้าชุดอื่น

วิธีจัดการผ้าสีตก

1.แยกผ้าที่มีสีตกออกจากผ้าอื่น ๆ
• ตรวจสอบและแยกผ้าที่มีสีตกออกจากผ้าชิ้นอื่น ๆ ที่สีไม่ตก ไม่นำมาซักรวมกัน

2. หยุดการสีตกโดยการแช่ผ้าในน้ำเกลือ
• เติมเกลือประมาณ 1-2 ช้อนโต๊ะลงในน้ำเย็นประมาณ 1-2 ลิตร
• แช่ผ้าสีตกในน้ำเกลือเป็นเวลา 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมง

3. ซ่อมผ้าขาวถูกสีตกด้วยผงฟอกขาว
• ใช้ผงฟอกขาวที่อ่อนโยน หรือผงฟอกขาวที่มีเครื่องหมาย อย. กำกับ
• ผสมสารฟอกขาวในน้ำตามคำแนะนำบนฉลาก
• แช่ผ้าในสารฟอกขาวเป็นเวลาประมาณ 15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น
• ควรใส่ถุงมือ และซักผ้าในบริเวณที่มีอากาศถ่ายเท

4. ซ่อมผ้าสีตกด้วยวิธีธรรมชาติ
• ผสมเบกกิ้งโซดาหรือน้ำมะนาว ½ ถ้วยตวง กับ น้ำ 4 ลิตร
• ใส่ในกะลามังแช่ผ้าเป็นเวลา 30 นาที
• ล้างออกด้วยน้ำเย็น

5. วิธีการซักผ้าสีตก
• ซักผ้าสีตกในเครื่องซักผ้าด้วยโปรแกรมซักน้ำเย็น
• ใช้ผลิตภัณฑ์ซักผ้าสี และเติมน้ำส้มสายชูประมาณ 1 ถ้วยในน้ำซัก

6. ตรวจสอบหลังการซัก
• หลังจากซักเสร็จ ตรวจสอบว่าผ้ามีการสีตกอีกหรือไม่ ถ้ายังมี ให้ทำซ้ำขั้นตอนข้างต้น

สรุป
คุณไม่จำเป็นต้องทำทุกขั้นตอนเรียงกันทุกครั้ง แต่สามารถเลือกใช้ขั้นตอนที่เหมาะสมตามสถานการณ์

– แยกผ้า: ทำเสมอ
– แช่น้ำเกลือ: ทำถ้าผ้ามีแนวโน้มสีตก
– ฟอกขาว: ทำสำหรับผ้าขาวเมื่อจำเป็น
– ฟอกสีธรรมชาติ: ทำสำหรับผ้าสีเมื่อจำเป็น
– ซักน้ำเย็น: ทำเสมอ

จะเห็นได้ว่าน้ำที่มีอุณหภูมิสูงสามารถทำให้สีหลุดลอกได้ดี ไม่ว่าจะสีจากการย้อมผ้าหรือย้อมผม หากคุณทำสีผมแต่ใช้น้ำอุ่นสระผมก็จะทำให้สีผมหลุดเร็วได้เช่นกัน

รวมถึงน้ำในถังพลาสติกทั่วไปที่หากเจอกับความร้อนเป็นเวลานานก็สามารถทำให้สีที่ผสมกับพลาสติกละลายมาปนเปื้อนกับน้ำในถังได้ แต่ไม่ใช่กับถังเก็บน้ำที่ผลิตจากวัสดุเอลิเซอร์ ซึ่งผสมสีด้วยวิธีคอมพาวนด์ขั้นสูงจาก SCGC ที่ทำให้สีกับวัสดุจึงเป็นเนื้อเดียวกัน แม้จะตากแดดแรงจนน้ำอุ่นทั้งวันก็ไม่ทำให้สีหลุดลอกปะปนกับน้ำในถัง