เชื่อว่าหลาย ๆ ท่านพึงพอใจกับน้ำที่ไหลแรงถึงใจมากกว่าน้ำที่ไหลเอื่อย ๆ เพราะเมื่อน้ำไหลแรงก็ทำให้เราใช้น้ำได้สะดวกขึ้นและยังประหยัดเวลามากขึ้นอีกด้วย มาดูกันว่า 5 สิ่งที่ส่งผลต่อความแรงของน้ำในบ้านมีอะไรบ้าง

1.แรงดันน้ำ

ส่วนใหญ่แล้วเราจะใช้น้ำประปากันเป็นหลักใช่ไหมครับ ซึ่งน้ำประปาของแต่ละพื้นที่ก็ไหลช้าเร็วไม่เท่ากัน บางพื้นที่ต้องใช้แรงดันในการทำให้น้ำเคลื่อนที่มากหน่อย โดยแรงดันน้ำปกติจากการประปาจะอยู่ที่ประมาณ 1 – 2 บาร์

2. ปั๊มน้ำ

เมื่อแรงดันน้ำปกติยังแรงไม่พอ การติดตั้งปั๊มน้ำจึงเป็นทางออกที่ดีในการช่วยเพิ่มแรงดันน้ำ แต่การติดตั้งปั๊มโดยตรงจากมิเตอร์ผิดกฎหมาย ต้องติดปั๊มน้ำต่อจากถังเก็บน้ำเท่านั้นนะครับ ทั้งนี้ควรใช้แรงดันในระดับมาตรฐาน คือ ไม่เกิน 3 – 4 บาร์ เพราะหากแรงดันน้ำมากไปอาจทำให้เกิด Water Hammer ตามมาได้นั่นเองครับ

3. อัตราการไหลของน้ำประปา

การที่น้ำประปาไหลเร็วก็ทำให้น้ำไหลแรงตามไปด้วย บางช่วงเวลาหากคนใช้น้ำพร้อมกันเป็นจำนวนมากก็อาจทำให้น้ำเบาลงได้ หากที่บ้านติดตั้งถังเก็บน้ำก็จะมีน้ำไหลแรงคงที่เพราะมีน้ำสำรองไว้ในถังอยู่เสมอครับ

4. ระยะของท่อประปา

ยิ่งจุดใช้น้ำปลายทางห่างจากต้นทางมากเท่าไหร่ ความแรงของน้ำก็ยิ่งเบาลง จึงควรวางแผนการติดตั้งตำแหน่งของถังเก็บน้ำรวมถึงคำนวณขนาดและประเภทของปั๊มน้ำให้เหมาะสมกับการใช้งานจะได้ไม่มีปัญหาภายหลังนะครับ

5. ขนาดของท่อประปา

แน่นอนว่าท่อมีขนาดใหญ่ก็พร้อมรองรับมวลน้ำให้ไหลผ่านได้มากขึ้น ซึ่งหมายถึงสามารถจุน้ำสะสมไว้ในท่อได้มากขึ้นด้วยจึงทำให้เกิดการสะสมแรงดันน้ำ เมื่อเปิดก๊อกน้ำจึงไหลแรงตาม

สรุปแล้วถ้าอยากใช้น้ำแรงถึงใจ บ้านจึงควรมีถังเก็บน้ำและปั๊มน้ำติดไว้ครับ ซึ่งถังเก็บน้ำในท้องตลาดมีวัสดุที่หลากหลายให้เลือกสรร ควรเลือกใช้วัสดุที่มีลักษณะทึบแสงเพื่อป้องกันการเกิดตะไคร่น้ำ และต้องมั่นใจได้ว่าทนทานต่อแสงแดด/ความร้อน ไม่บวมบิดงอง่าย อย่างวัสดุเอลิเซอร์ เป็นต้น สามารถคลิกดู คู่มือเลือกถังเก็บน้ำ หรือเลือกดู แบรนด์ผู้ผลิตถังเก็บน้ำที่ใช้วัสดุเอลิเซอร์ ก่อนได้ครับ