ปฏิเสธไม่ได้ว่ายุคนี้เป็นยุคที่กิจการร้านอาหารคาเฟ่เฟื่องฟูมาก ไม่ว่าจะไปเที่ยวที่จังหวัดไหน ‘คาเฟ่’ มักเป็นหนึ่งในสถานที่ที่เราต้องแวะเช็กอินถ่ายรูปอยู่เสมอ ๆ จึงไม่แปลกที่มีคาเฟ่เปิดใหม่อยู่ตลอด ซึ่งคาเฟ่แต่ละที่ก็ย่อมมีเอกลักษณ์และจุดเด่นแตกต่างกัน จึงไม่มีกฎตายตัวว่าต้องใช้ถังเก็บน้ำจำนวนเท่าไหร่ หรือกี่ลิตร

การคำนวณหาปริมาณถังน้ำให้เหมาะสมก็พอจะมีวิธีอยู่ครับ โดยคำนวณจากปริมาณน้ำของการกดชักโครกและล้างมือต่อครั้ง คือ 8 – 12 ลิตร ซึ่งเป็นปริมาณน้ำที่ยังไม่รวมการใช้เบ็ดเตล็ด เช่น การล้างอุปกรณ์, ทำความสะอาด, รดน้ำต้นไม้ ฯลฯ ดังนั้นจึงสรุปมาเป็นสูตรให้ใช้คำนวณอย่างง่าย ๆ ดังนี้ครับ

ปริมาณน้ำคือ 15 ลิตร x ด้วยจำนวนลูกค้าต่อวันที่คาดว่าจะมี เช่น 50 คนต่อวัน ก็จะได้เป็น 15 x 50 = 750 ลิตร เท่ากับปริมาณน้ำที่คาเฟ่ของเราต้องใช้ต่อหนึ่งวัน

ซึ่งเราควรต้องสำรองน้ำไว้ใช้เผื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เพื่อให้กิจการสามารถรันต่อได้ทุกวันใช่ไหมครับ

เหตุนี้เราจึงควรสำรองน้ำไว้ใช้เผื่อกรณีฉุกเฉินด้วย โดยการนำจำนวน ‘ปริมาณน้ำต่อวัน’ X ‘จำนวนวันที่ต้องการสำรองน้ำ’

ยกตัวอย่างเช่น ต้องการสำรองน้ำ 3 วัน ก็นำ 750 x 3 = 2,250 ลิตร เท่ากับปริมาณถังเก็บน้ำที่ควรใช้นั่นเองครับ

นอกจากร้านสวย อาหารอร่อยแล้ว ความสะอาดก็คือเสน่ห์หนึ่งที่ทำให้ลูกค้าอยากแวะเวียนมาที่คาเฟ่ของเรา หากลูกค้าเข้าห้องน้ำล้างมือแล้วน้ำมีสี มีกลิ่น ก็อาจทำให้ลูกค้าตั้งคำถามกับความสะอาดของร้านถึงเรื่องคุณภาพของอาหารและเครื่องดื่มได้ อย่างเลวร้ายที่สุดคือ อาจจะเกิดรีวิวแย่ ๆ ต่อร้าน หรือเกิดการบอกต่อที่ทำให้ลูกค้าเราลดน้อยลงได้นะครับ

อ่านเหตุผลว่าทำไมวัสดุเอลิเซอร์ถึงยืนหนึ่งเรื่องความสะอาด

ตรวจเช็กมาตรฐานที่วัสดุเอลิเซอร์ผ่านการรับรอง

เปิดวาร์ปยี่ห้อถังเก็บน้ำที่ควรค่าแก่การซื้อ