ร้านล้างรถหยอดเหรียญ อีกหนึ่งธุรกิจหยอดเหรียญมาแรง ที่กำลังได้รับความนิยม เนื่องจากสามารถมอบความสบายใจให้ลูกค้าได้ทั้งเรื่อง เวลา ที่สามารถเลือกเวลาที่ตัวเองสะดวกได้ และความสบายใจ ไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดกรณีที่ทางร้านทำให้รถแสนรักของคุณเสียหายหรือเกิดริ้วรอย หรือในมุมเจ้าของธุรกิจ การลงทุนในธุรกิจล้างรถหยอดเหรียญเป็นการลงทุนที่สามารถคืนทุนได้ในระยะเวลาอันสั้น หากมีการวางแผนการจัดการที่ดี ไม่ว่าจะเปิดร้านในนามตนเองหรือเข้าร่วมเฟรนไชส์ก็มีให้บริการอยู่มากมาย

แต่ในบทความนี้เราจะเน้นเรื่องการสำรองน้ำ เพื่อกิจการนี้กันเป็นหลักครับ เนื่องจาก น้ำ ถือเป็นปัจจัยหลักในการล้างรถที่ขาดไม่ได้ มาดูวิธีการคำนวณกันว่า หากเปิดร้านล้างรถหยอดเหรียญต้องใช้ถังสำรองน้ำกี่ลิตร?

ปริมาณน้ำที่ใช้ต่อรถหนึ่งคัน

  • รถยนต์ – ปริมาณน้ำที่ใช้ในการล้างแต่ละครั้ง นอกจากจะขึ้นอยู่กับขนาดของรถแล้ว ประเภทของการล้างก็มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยเหมือนกัน เช่น การล้างด้วยน้ำแรงดันสูง, การล้างด้วยฟองน้ำยา และการล้างด้วยน้ำธรรมดาทั่วไป แต่โดยเฉลี่ยแล้วการล้างรถยนต์ใช้น้ำประมาณ 100 – 200 ลิตร/คัน
  • รถมอเตอร์ไซค์ – ใช้ปริมาณน้ำประมาณ 50 – 100 ลิตรต่อการล้างหนึ่งครั้ง (บทความนี้จะสมมติใช้ 75 ลิตรเป็นค่าเฉลี่ย)

ปัจจัยที่มีผลต่อการใช้น้ำ:

  • จำนวนช่องล้างรถ: หากมีหลายช่องล้างรถ เปิดให้บริการพร้อมกัน จะต้องใช้น้ำในปริมาณที่มากขึ้น
  • ประเภทเครื่องล้างรถ: เครื่องล้างรถแบบต่างๆ เช่น เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง หรือเครื่องพ่นฟองสบู่ อาจใช้น้ำในปริมาณที่แตกต่างกัน
  • จำนวนรถที่คาดว่าจะเข้ามาใช้บริการต่อวัน: ควรพิจารณาจำนวนลูกค้าต่อวันและช่วงเวลาที่มีการใช้งานสูงสุด เพื่อคำนวณปริมาณน้ำที่ต้องสำรอง

ในธุรกิจล้างรถหยอดเหรียญ การคำนวณปริมาณน้ำที่ต้องสำรองไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่ารถแต่ละคันจะใช้น้ำพร้อมกันหรือไม่ แต่ขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำที่ต้องใช้ต่อการล้างรถแต่ละคัน และจำนวนรถที่คาดว่าจะเข้ามาใช้บริการสูงสุดในแต่ละวัน

ตัวอย่างการคำนวณปริมาณน้ำต่อช่องล้าง:

• สมมติว่าร้านของคุณมี 3 ช่องบริการสำหรับล้างรถยนต์ และ 2 ช่องบริการสำหรับล้างมอเตอร์ไซค์ โดยคาดว่าจะมีรถเข้ามาใช้บริการสูงสุดช่องละ 10 คันต่อวัน หมายความว่า

รถยนต์: 3 ช่องล้างรถยนต์ หากมีรถยนต์เข้ามาใช้บริการช่องละ 10 คันต่อวัน (รวมเป็น 30 คันต่อวัน)
มอเตอร์ไซค์: 2 ช่องล้างมอเตอร์ไซค์ หากมีมอเตอร์ไซค์เข้ามาใช้บริการช่องละ 10 คันต่อวัน (รวมเป็น 20 คันต่อวัน)

การคำนวณปริมาณน้ำที่ต้องใช้ต่อวัน:

  • รถยนต์: 30 คัน x 200 ลิตร = 6,000 ลิตร
  • มอเตอร์ไซค์: 20 คัน x 75 ลิตร = 1,500 ลิตร
  • ปริมาณน้ำรวม: 6,000 ลิตร (รถยนต์) + 1,500 ลิตร (มอเตอร์ไซค์) = 7,500 ลิตรต่อวัน

การเผื่อน้ำสำรอง

เนื่องจากธุรกิจควรเตรียมน้ำสำรองไว้สำหรับกรณีฉุกเฉิน เช่น การขัดข้องของระบบน้ำประปา หรือการมีรถเข้ามาใช้บริการมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ควรเผื่อน้ำสำรองไว้อีก 10 – 20% ของปริมาณน้ำที่คำนวณได้

น้ำสำรอง (20%): 7,500 ลิตร x 0.20 = 1,500 ลิตร

ปริมาณน้ำรวมทั้งหมดที่ต้องสำรอง: 7,500 ลิตร + 1,500 ลิตร = 9,000 ลิตร

ดังนั้นจากกรณีตัวอย่างนี้ควรติดตั้งแทงค์สำรองน้ำทั้งหมด 9,000 ลิตร

การเลือกแทงค์สำรองน้ำ

ควรเลือกแทงค์น้ำที่ทนทานเพื่อให้ใช้งานได้มีประสิทธิภาพอย่างยาวนาน ควรเลือกแทงค์น้ำที่มีคุณสมบัติดังนี้

  1. ยืนหยุ่นทนทานต่อทุกสภาพอากาศ ไม่ว่าจะร้อนจัดและหนาวเย็นก็ไม่กรอบแตก สามารถตั้งกลางแจ้งได้ไร้กังวล
  2. เป็นวัสดุทึบแสง 100% เพื่อป้องกันการเกิดตะไคร่น้ำ ซึ่งอาจจะไหลไปติดท่อหรือข้อต่ออุปกรณ์สายฉีดล้างได้
  3. ไร้สารตะกั่ว ปรอท และสารหนู เพราะอาจเป็นอันตรายต่อผู้ใช้น้ำได้

ซึ่งถังเก็บน้ำวัสดุเอลิเซอร์มีคุณสมบัติเหล่านี้อย่างครบครัน สามารถหาซื้อได้จากแบรนด์ถังเก็บน้ำที่มีสัญลักษณ์หยดน้ำ elixir by SCGC ได้เลย